ในปี 2556 ผมค้นพบสามสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตและรูปร่างของผมดังที่ไม่เคยเป็นมาก่อน:
- ผลลัพธ์ของเพื่อนที่ชอบงานปาร์ตี้อย่างมากว่าเป็นอย่างไรเมื่อเอาจริงเอาจังเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย
- วิธีการลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับวิธีการใช้ชีวิตที่ชื่นชอบในการวิเคราะห์สิ่งต่างๆแบบผม (ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะมาจากเรื่องย่อของหนังสือเล่มนี้บนอินเทอร์เนตก็ตามแต่)
- วิธีการซื้อของออนไลน์ในไทย (ผมจะอธิบายถึงเรื่องนี้ว่าเกี่ยวข้องอย่างไรในภายหลัง)
อย่างแรกเลย ผมเป็นมังสวิรัติ หลายๆท่านอาจจะคิดว่าคนที่ทานมังสวิรัติหน่ะไม่อ้วนหรอก เพราะอาหารประเภทนี้ก็มีแต่พวกผักเท่านั้น จริงๆแล้วอาหารมังสวิรัติที่ทำให้อ้วนนั้นมีอยู่มากมายในตลาด ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่ามังสวิรัติ เบอร์เกอร์มังสวิรัติ เบียร์ มอคค่าแฟรบปูชิโน่ ที่มีแคลอรี่มากถึง 500 กิโลแคลอรี่ อาหารที่มีทำมาจากน้ำตาลเทียมและคาร์โบไฮเดรตเท่านั้น และอื่นๆอีกมากมาย
ดังนั้นแล้ว ผมลดน้ำหนักได้อย่างไร?
ผมเลือกการต่อสู้ที่ชัยชนะนั้นมีค่า
จากประวัติศาสตร์การใช้ชีวิตของผมที่ผ่านมา มีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่ผมที่ผมสามารถลดน้ำหนักได้เพราะการต่อสู้ครั้งนั้นนำชัยชนะที่มีคุณค่ามาให้ผม ย้อนกลับไปเมื่อปี 2552 ผมสามารถไม่ทานอาหารที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม คาเฟอีน หรือน้ำตาลเทียมได้เมื่อผมต้องการให้กำลังใจเพื่อนที่กำลังต่อสู้กับปัญหาทางร่างกายอยู่ เมื่อไม่มีเป้าหมายนั้นแล้ว วินัยทางอาหารของผมก็หายไปพร้อมกับน้ำหนักที่กลับมาเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว
ใน 100 วันนี้ ผมเลือกที่จะต่อสู้ในสมรภูมิที่นำชัยชนะอันมีค่ามาให้ผม ครั้งนี้เป้าหมายของผมไม่ได้มีเพียงแค่การลดน้ำหนักเท่านั้น ผมจะทะลุทะลวงเป้าหมายนี้ไปเลย ผมมองหนวดเคราสีแดงของผมในกระจกและตัดสินใจทันทีว่า ผมกำลังจะเป็นเหมือนพวกไวกิ้ง
ภาพภายในหัวผมนี้ทำให้การต่อสู้มีความหมาย มันจะไม่เป็นเพียงแค่ตัวเลขบนที่ชั่งน้ำหนักเท่านั้น ครั้งนี้ มันคือภาพของผมในลุคใหม่ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมอาจจะเผลอตัวทานเค้กไปอีกก็ได้ถ้าคิดเพียงแค่ว่านั้นเป็นการสร้างไขมันเพียงเล็กน้อย แต่คราวนี้มันหมายถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะเสี่ยงกับเค้กสักชิ้นได้
ผมเชื่อในแผนการของผม
ถ้าคุณไม่เชื่อมั่นต่อแผนการที่คุณมี คุณจะทำแผนการนั้นให้สำเร็จหรือไม่? คงจะไม่ การลดน้ำหนักก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณไม่เชื่อมั่นต่อแผนที่คุณมี หรือว่าคุณสูญเสียความมั่นใจต่อแผนการนั้นไป คุณก็จะไม่ทำมันอีก คุณไม่จำเป็นต้องมองหาแผนการที่สมบูรณ์แบบที่สุดหรอก แค่วิธีเดียวที่คุณเชื่อมั่นและมีประสิทธิภาพก็พอ
วิธีการที่ผมใช้คือการนับแคลอรี่ ผมใช้แอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า MyFitnessPal เป็นตัวช่วยให้ผมทานน้อยกว่า 1,500 แคลอรี่ทุกวัน ถ้าผมทานมากกว่านั้น ผมก็จะออกกำลังกายทดแทนเผื่อเผาพลาญแคลอรี่ที่เกินมาให้ต่ำกว่า 1,500 วิธีนี้เป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบที่สุดหรือไม่? อาจจะใช่ อาจจะไม่ใช่ แต่ว่ามันได้ผล และผมก็เชื่อว่ามันได้ผล ผมรู้ว่าถ้าผมทำอย่างนี้ต่อไป ในที่สุดน้ำหนักผมก็จะลด แม้ว่าตัวเลขบนที่ชั่งน้ำหนักจะเป็นอะไรก็ตามแต่
สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุได้อย่างรวดเร็วว่าจะสามารถช่วยให้ผมบรรลุเป้าหมายแคลอรี่ที่วางไว้คือเลือกทานอาหารที่ให้โปรตีนสูง มากกว่าอาหารที่มีแต่คาร์โบไฮเดรตหรือขนมที่อุดมไปด้วยไขมันอิ่มตัว การไม่ทานคาร์โบไฮเดรต “สีขาว” และเลือกผลิตภัณท์จากนมที่มีไขมันหรือน้ำตาลต่ำคือหนึ่งในชัยชนะที่ผมได้มาอย่างรวดเร็ว ผมอ่านฉลากผลิตภัณท์ของนมถั่วเหลืองและอาหารอื่นๆทั้งหมด เพื่อค้นพบว่าอาหารแต่ละอย่างทำให้อ้วนได้ขนาดไหน
แคลอรี่มากกว่าครึ่งของเนื้อสัตว์เจที่ทำมาจากถั่วเหลืองโดยทั่วไปนั้นมาจากไขมัน เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์เจที่ทำจากข้าวสาลี หรือที่เรียกว่า Seitan นั้น แคลอรี่ที่มาจากไขมันแทบจะเป็นศูนย์ น่าเสียดายที่ตอนนี้มีกระแสต่อต้าน Seitan ทำให้หลายๆคนเลี่ยงที่จะไม่ทานมัน ถึงแม้ว่าจะให้โภชนาการทางอาหารมากที่สุดในจำพวกเนื้อสัตว์เจก็ตามแต่ คุณไม่เคยได้ยินเรื่องสงคราม Seitan มาก่อนหรอ? นั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะว่าในบริบทนั้นมันถูกเรียกว่า กลูเตน (Gluten) แทน
การลดน้ำหนักในครั้งนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน 100 วันหมายถึงระยะเวลามากกว่า 3 เดือน แต่ผมเชื่อว่าถ้าผมมั่นใจในแผนการนี้ต่อไป การลดน้ำหนักต้องสำเร็จอย่างแน่นอน ความมั่นใจนี้ทำให้ผมนับแคลอรี่ต่อไป
ผมทำให้สมรภูมิชนะศึกสงคราม
ในศตวรรษที่ 15 กองทัพอังกฤษที่มีกำลังเพียงเล็กน้อยสามารถชนะกองทัพจากฝรั่งเศสที่มีจำนวนทหารมากกว่าได้อย่างราบคาบ ในสงครามที่เรียกว่าสมรภูมิแอจินคอร์ท (Battle of Agincourt) พลธนูอังกฤษพรากชีวิตเหล่าอัศวินฝรั่งเศสที่ติดอยู่ในท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยโคลนได้อย่างราบคาบ ในครานั้น สมรภูมิได้สู้รบและนำมาชัยชนะมาสู่กองทัพอังกฤษ
สำหรับศึกการลดน้ำหนักของผมนั้น ผมพยายามสร้างสมรภูมิที่จะนำชัยชนะมาให้ผมได้ในทุกๆวัน ผมทิ้งขนมขบเขี้ยวรวมถึงของหวานทั้งหมดออกจากห้องของผม ผมเลี่ยงที่จะไม่ไปซุปเปอร์มาเก็ตโดยเฉพาะชั้นวางขนมต่างๆโดยวิธีการซื้อของออนไลน์แทน ผมขจัดสิ่งกีดขวางที่ทำให้ผมไม่ไปออกกำลังกายโดยศึกษาวิธีการออกกำลังที่บ้านแทน รวมถึงสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนตที่ใกล้กับที่อยู่ของผม ผมสร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่จะช่วยให้ผมชนะในศึกครั้งนี้
ความจริงที่น่าเศร้าอย่างหนึ่งคือเมื่อคุณเป็นมังสวิรัติและต้องการที่จะลดน้ำหนัก อาหารที่ทานได้ตามร้านอาหารต่างๆจะเหลือแต่สลัดผักเท่านั้น ดังนั้น ผมต้องทำอาหารทานที่บ้านแทนก่อนที่จะออกไปพบกับเพื่อนเพื่อทานมื้อเย็นร่วมกัน อาหารที่ผมทำเองเน้นไปที่โปรตีนที่มาจากไข่ (ก็แค่ต้มไข่ 6 นาทีและนำไปโปะบนขนมปังโฮลวีทพร้อมกับหยอดมัสตาร์ดนิดหน่อย) หลังจากนั้น ผมก็จะไปทานสลัดผักนิดหน่อยแทนที่จะไปกิน (และพลาด) ให้อิ่มในร้านอาหาร
จิตใจผมไม่ได้เข็มแข็งพอที่จะสามารถชนะทุกศึกที่ต้องการระเบียบวินัยสูงแบบนี้ทุกครั้งหรอก แต่ถ้าทุกสิ่งเข้าข้างผม ผมสามารถชนะได้แม้ว่าศึกครานั้นจะหนักหนาสาหัสสักเพียงใดก็ตามแต่
คุณสามารถทำได้ไหม?
ผมใช้เวลานานในการแสวงหาการต่อสู้ที่มีความหมายเช่นนี้ การค้นพบแผนการที่ผมเชื่อถือในครั้งนี้เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ การสร้างสิ่งแวดล้อมร้อบตัวเพื่อนำชัยชนะมาให้นั้นต้องการการเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อสร้างวินัยส่วนตัวของผม
อาจจะดูเหมือนผมภูมิใจในตัวเองที่มากเกินไป จากการที่ผมลงรูปเปรียบเทียบก่อนและหลังการลดน้ำหนักบนเฟสบุ๊ค อาจจะเป็นเพราะแฟนของผม เธอช่วยผมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะคำแนะนำในเรื่องอาหาร อาจจะเป็นการหลงตัวเอง ที่ทำให้ผมมีความมันใจในศักยภาพของตนเองกับสิ่งที่ผมยึดมั่น
คุณอาจจะมีเป้าหมายในการลดน้ำหนักที่ต่างจากผม แต่การเป็นมังสวิรัติไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างได้ ใช่แล้ว อาหารคาร์โบไฮเดตต่ำนั้นหายากมาก แต่ถ้าคุณจัดการโดยทานอาหารให้ฉลาดขึ้น ลดไขมันและน้ำตาล แทนที่จะทำสงครามไม่ทานคาร์โบไฮเดตเลย คุณสามารถลดน้ำหนักได้โดยไม่จำเป็นต้องทนหิว
ข้อเสียอย่างหนึ่งของการเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนสูงสำหรับชาวมังสวิรัติคือราคาอาหารที่สูงกว่าอาหารทั่วไป (ยกเว้นว่าคุณโอเคที่จะไม่ทานอาหารอย่างอื่นเลยยกเว้นไข่ นม/โยเกิตร์ที่มีไขมัน 0% ผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวสาลี) ในขณะที่ผมเขียนบทความนี้ ผมได้ลงบทความเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตของผมในไทยซึ่งรวมถึงค่าอาหารด้วย อย่างน้อยที่สุด คุณไม่จำเป็นต้องซื้อมากขนาดนั้นในขณะที่ลดน้ำหนักอยู่ 😉
อ่า ใช่แล้ว วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคุณ แต่คุณไม่มีทางรู้หรอกหากไม่ได้ลองด้วยตนเอง
ผมควมคุบน้ำหนักได้ไหมหลังจากนั้น?
ผมลดน้ำหนักในเดือนพฤษจิกายน ปี 2556 และในขณะนี้น้ำหนักผมก็ยังคงที่อยู่ ผมได้ทดลองอย่างอื่นนิดหน่อยหลังจากนั้นเช่น การออกกำลังกาย และโภชนาอาหารต่างๆ โดยผมเล็งไปที่อาหารและช่วงเวลาออกกำลังกายที่เหมาะสมและสามารถทำได้ตลอดไป รูปนี้คือรูปเปรียบเทียบรูปร่างของผมก่อนที่จะลดน้ำหนักกับรูปร่างของผมในเดือนมีนาคม ปี 2558
จริงๆแล้วผมรู้สึกว่าหุ่นของผมไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักเท่ากับสิ่งที่ผมคิดไว้หลังจากพยายามอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีก็ตามแต่ อย่างไรก็ตาม ผมค่อนข้างมีความสุขกับวิธีนี้เพราะผลลัพท์ที่ออกมานั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตผมในทางที่ดีขึ้นและทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นในทุกๆด้าน (มากกว่าที่หุ่นของผมจะเปลี่ยนไปในทางที่ผมไม่ชอบ) ดังนั้นแล้ว ผมจะใช้วิธีนี้ต่อไปดั่งคำสุภาษิตที่ว่า “ช้าๆได้พร้าเล่มงาม”
แล้วคุณล่ะ? คุณเคยลดน้ำหนักมาก่อนไหม? และวิธีไหนที่มีประสิทธิภาพสำหรับคุณ? ผมต้องการที่จะได้ยินเรื่องราวของคุณเช่นเดียวกัน!
*ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับด้านสุขภาพหรือการลดน้ำหนัก บทความด้านบนเขียนขึ้นโดยความเข้าใจและจากประสบการณ์ของตัวผมเอง ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมแนะนำให้ติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจะดีกว่า
Leave a Reply